ตอนต้นเดือนผมได้โพสความคืบหน้าของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผม ในโพสที่มีชื่อว่า “ชีวิตเปลี่ยนไป” วันนี้จะมาอัพเดทเพิ่มหลังจากครั้งก่อนไปเกือบ 2 อาทิตย์ ความเปลี่ยนแปลงมีดังนี้…
ออกกำลังกาย
วันนี้ถือเป็นวันที่ 4 ของการเริ่มออกกำลังกาย จากที่ไม่ได้ออกกำลังมากว่าสิบปี เรียกได้ว่าง่อยกินกันเลยทีเดียวเพราะงานผมส่วนใหญ่ต้องนั่งทำงานหน้าคอม ตลอดนับสิบปีที่ผ่านมาก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็นั่งหน้าคอมจนกระทั่งเลิกงานก็ดึกดื่นเที่ยงคืน ไม่สิเป็นตีๆซะมากกว่า (ทำงานที่บ้าน) พักหลังๆรู้สึกได้ถึงความอ่อนแอของร่างกาย ทำอะไรก็เหนื่อยง่าย พักนี้อ่านหนังสือมากขึ้น(ส่วนใหญ่เรื่องการพัฒนาตนเอง และสุขภาพ) ก็เลยตัดสินใจเริ่มออกกำลังกาย
เนื่องจากไม่ได้ออกกำลังมานาน จู่ๆจะให้โหมหนักก็คงจะไม่เป็นการดีต่อร่างกาย ผมจึงจัดสรรเวลา วันละ 30 นาทีตอนเช้า หลังจากทำงานบ้านแล้ว มาออกกำลัง เริ่มด้วยการยืดเหยียด ตามด้วยวิดพื้น ซิทอัพ ยกเวท วิ่ง จนกระทั่งก่อนหมดเวลา 5 นาที จะเป็นการเดิน จบท้ายด้วยไท้เก็ก ชี่กง ท่าง่ายๆ
จากการออกกำลังกายแค่ 4 วัน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น (นิดนึง) สามารถทนต่อการทำงานบางอย่างที่ใช้แรงได้ดีขึ้น ใช้ร่างกายได้ดีขึ้น การหายใจดีขึ้น
การนอน
ความสามารถในการงีบระยะสั้นเหมือนที่เคยทดลองใน การนอนแบบไม่ปกติ เริ่มลดลง แต่ก็ยังสามารถงีบกลางวันได้อย่างปกติ แต่เรื่องเวลาอาจจะมากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่ร่างกาย ช่วงนี้ผมนอนเป็น 2 เฟส คือ นอนยาว 1 ครั้ง เที่ยงคืน – 6 โมงเช้า แล้วงีบ30 นาทีช่วงก่อนบ่าย หลังทานอาหารเที่ยง
การงีบหลังอาหารเที่ยง ก่อนทำงานช่วงบ่าย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น ไม่ง่วง ทำงานได้ถึงเย็นโดยไม่มีปัญหาใดๆ
การกิน
ช่วงนี้เน้นทานผักและผลไม้ พยายามหาอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ มีประโยชน์ต่อร่างกายมาขึ้น เนื่องจากภรรเมียไปเข้าคอร์สลดน้ำหนัก แล้วต้องควบคุมอาหาร อีกทั้งผมได้อ่านหนังสือ วิตามินไบเบิล และบางส่วนของหนังสือ NLP เรื่อง พลังไร้ขีดจำกัด–Unlimited Power ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหาร โภชนาการ ส่วนใหญ่ก็จะทานอาหารพวกน้ำพริกผักต้ม สลัดผัก สลับกับอาหารปกติ โดยส่วนใหญ่จะทานกันวันละ 2 มื้อหนัก คือเที่ยง กับเย็น ส่วนมื้อเช้าจะทานขนมปังปิ้ง ไม่ก็ผลไม้แทน
ผลไม้นี่มีอยู่เต็มตู้เย็นตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งกิมจู แตงโม กล้วย นอกนั้นก็มีบ้างเช่น องุ่น ชมพู่ สลับกันไป จากการทานผักผลไม้มากขึ้น หนึ่งปัญหาด้านสุขภาพของผมที่หมดไป นั่นก็คือ ปัญหาเรื่องท้องผูก แต่ก่อนผมเป็นคนที่เรียกว่า หลายวันกว่าจะถ่ายหนักสักที ถ่ายทีก็ลำบาก กลัววันหน้าจะเสี่ยงเป็นริดสีดวง
ถ้าใครมีปัญหาเรื่องท้องผูก ผมแนะนำซื้อฝรั่งติดบ้านไว้ครับ ยิ่งฝรั่งกิมจูทานง่าย อร่อย ราคาไม่แพง หั่นเก็บไว้ในตู้เย็น เอาออกมาทานช่วงหิวตอนกลางคืน ก่อนนอน รับรองว่าหมดปัญหาเรื่องท้องผูกแน่นอน
การแบ่งเวลา
จากการอ่านหนังสือหลายเล่ม บางความหลายอย่าง จนตกผลึกเป็นความคิดในการจัดการตนเอง สิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้ได้นั่นก็คือ การแบ่งเวลาสำหรับทำสิ่งต่างๆในแต่ละวัน เพื่อความเป็นระเบียบ เพื่อให้เคยชินกับสิ่งต่างๆนำไปสู่นิสัยที่ดีในอนาคต ผมจึงตัดสินใจทำตารางเวลาขึ้น โดยตอนแรกๆก็ทำในกระดาษ เขียนไปเลยทั้งวันจะทำอะไรบ้าง ให้เวลากับอะไรเท่าไร ทั้งให้กับงาน กับครอบครัว กับการวางแผนชีวิต กับสุขภาพ กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เขียนไป ทำไปทำมาแล้ว ทำให้รู้ว่าการทำตามตารางเวลานั้นลำบากมาก ก็เลยต้องหาตัวช่วย เริ่มแรกเลยก็คือแอปมือถือ เป็นตารางเวลาเช่นกันแต่อยู่บนมือถือ ทำให้เราพกไปดูได้ตลอดว่าตอนนี้เราต้องทำอะไร แต่มันไม่มีการเตือนใดๆทั้งสิ้น ก็เลยไม่ค่อยมีประสิทธิภาพสักเท่าไร
จนกระทั่งไปเจอโปรแกรมหนึ่งที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ มันมีชื่อว่า The Action Machine เป็นโปรแกรมพวกนาฬิกาจับเวลาถอยหลังธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา เพราะทางคนเขียนโปรแกรมได้อำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อทำให้เป็นเป็นเครื่องมือในการทำสิ่งต่างๆให้เป็นไปตามเวลาที่เราต้องการ และมีการเตือนเป็นระยะๆ ให้เรารู้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้างแล้วนะ
หลังจากเริ่มมาได้ น่าจะสัก 4 วันแล้ว ทำให้เริ่มเคยชินกับ การซอยย่อยงานต่างๆ ออกเป็นช่วงๆ เนื่องจากประสิทธิภาพในการทำงานของเรานั้น มักจะลดลงเมื่อผ่านเวลางานไปได้ช่วงหนึ่ง เราจึงต้องสลับไปทำงานอื่นหรือหยุดพักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และทำงานให้เพิ่มขึ้น แนวคิดนี้ก็เหมือนกับที่เด็กไทยรู้จักกันมานานนั่นก็คือการจัดคาบเรียน ตารางเรียน ที่มักจะแบ่งเป็น 50 นาทีต่อคาบ แล้วให้พักระหว่างคาบเรียน แล้วเปลี่ยนไปเรียนวิชาอื่น แทนที่จะเรียนวิชาเดียวทั้งวัน
โดยรวม
หลังจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆมาได้แม้ไม่กี่วัน แต่ผมก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้ผมสุขภาพเริ่มดีขึ้น จากที่ท้องผูกก็หายไป เหนื่อยง่ายก็เริ่มดีขึ้น อาการคันยิบๆตามตัวเมื่อเจออากาศร้อนก็เริ่มหาย แต่ละวันผมทำงานบ้าน 2 ครั้ง กวาดบ้านล้างจานทุกวัน อ่านหนังสือได้มากขึ้น ทำเว็บ(เช่นเว้บนี้) ได้มากขึ้น แบ่งเวลาพูดคุยกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทำให้เวลาทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ผมยังแบ่งเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น เล่นกับลูกทุกวันวันละ 1 ชม. ตรวจสอบเป้าหมายชีวิตและหาวิธีเข้าถึงมันในทุกๆวัน และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในสิ่งที่ดีขึ้น
หากคุณไม่ชอบชีวิตคุณ ทำไมวันนี้คุณเริ่มที่จะเปลี่ยน จุดเปลี่ยนเล็กๆในชีวิตเมื่อผ่านวันเวลา ก็อาจสร้างผลที่แตกต่างกันอย่างใหญ่ยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น