ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเรายังเป็นเด็ก ตอนเราเจอกับบทเรียนยากๆ ทุกๆวัน แทบทุกคนมักจะสงสัยว่า จะเรียนพวกนี้ไปเพื่ออะไร? มันได้ใช้ในชีวิตจริงสักแค่ไหน?
วันคืนผันผ่าน หลายคนเติบโตขึ้น จบการศึกษา แล้วลองมองย้อนกลับไปว่า เราเสียเวลาไปกับการเรียน แค่พื้นฐานก็ 12 ปี แต่จะให้ดีก็ต้องจบปริญญาตรี โท เอก ที่รวมๆแล้วเราใช้เวลาไปกว่า 20 ปี กับการเรียนในสถานศึกษา แต่ความรู้ที่เราได้นำมาใช้งานจริงแล้วนั้น มีอะไรบ้าง สำหรับตัวผมเอง ความรู้ที่ใช้ในการทำงานกลับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเรียนในห้องเรียนเลยด้วยซ้ำ เพราะทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา
ครั้งนี้จึงขอเสนอ ทักษะสำคัญของชีวิต ที่สถาบันการศึกษาแต่ละที ควรสอนเด็กบ้าง อย่างน้อยก็ปูพื้นฐานเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตภายภาคหน้าได้
ภาษากาย การเข้าสังคมกับผู้อื่น
Gettyimages
เราทุกคนต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน คงไม่มีใครที่จะสามารถอยู่คนเดียวได้ ทักษะการเข้าสังคมกับผู้อื่นจึงสำคัญเป็นอย่างมาก การวางตัวในสถานการณ์ต่างๆ หากโรงเรียนสามารถสร้างคนเก่งได้ แต่กลับเข้ากับใครในสังคมไม่ได้เลย มันคงถือเป็นความล้มเหลวมิใช่น้อย
ภาษากาย (อวัจนภาษา) เป็นดังคำกล่าวที่ว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” การแสดงออกทางร่ายกายของเรามีความสัมพันธ์อย่างยิ่งยวดกับจิตใจ หากเราได้เรียนรู้ศาสตร์แห่งการสื่อความหมายของแต่ละภาษากาย เราจะสามารถเข้าถึงความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงการควบคุมจิตใจของเราเอง เพียงการวางท่าทางใหม่ให้กับร่างกาย
การอ่านเร็ว
Gettyimages
การอ่านถือเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษา และความสำเร็จในชีวิต ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีมากมายจนอ่านกันไม่ไหว การอ่านเร็วถือเป็นทักษะหนึ่งที่เราทุกคนควรมี โดยการอ่านเร็วนั้นช่วยในการลดเวลาแถมยังทำให้เข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้นอีกด้วย โดยอาศัยการอ่านซ้ำในเวลาที่เท่ากันก็จะทำให้เข้าใจได้มากขึ้น แต่ใช่ว่าเราจะอ่านเร็วไปซะหมดทุกอย่าง หนังสือบางประเภทเราก็สามารถอ่านแบบธรรมดาเผื่อเข้าถึงความสุนทรีย์แห่งภาษาได้
การตั้งเป้าหมาย การจัดการเวลา
Gettyimages
การเดินทางที่ไร้ซึ่งจุดหมายปลายทางที่แน่นอน เราย่อมลังเลเมื่อถึงทางแยกของถนน การตั้งเป้าหมายชีวิตก็เช่นกัน หากเราไม่เคยตั้งเป้าหมายไว้แล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรไปทางไหนเมื่อถึงทางแยกของชีวิต ในขณะนี้เราเดินทางถึงจุดไหนแล้ว เราควรเดินไปทางไหนบ้าง คนที่ประสบความสำเร็จมักจะตั้งเป้าหมายชีวิตของตนเสมอ เพื่อโฟกัสไปยังสิ่งที่เขาต้องการ เพื่อพัฒนาตนเองในทุกทางเพื่อไปสู่ฝั่งฝัน เพื่อตัดสินใจอย่างทันทั่วที เด็ดขาด เมื่อเจอช่วงชีวิตที่ต้องเลือกเส้นทางเดิน การตั้งเป้าหมายชีวิตที่ดีต้องชัดเจน น่าจะทำได้จริง มีกรอบเวลาเส้นตายที่สมเหตุสมผล และประกาศเป้าหมายเหล่านั้นให้ผู้คนรอบกายรับรู้ เพื่อเป็นการบังคับตนเองให้ทำตามสิ่งที่บอกผู้อื่น
ไม่ว่ายากดีมีจนเราทุกคนต่างมีเวลาเพียง 24 ชม. ในหนึ่งวัน คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตย่อมเรียนรู้ที่จะจัดการกับเวลาอย่างเหมาะสม จัดสรรเวลาว่าสิ่งไหนควรทำก่อน ทำหลัง โดยมีเป้าหมายชีวิตเป็นที่ตั้ง
บัญชี ภาษี
Gettyimages
สำหรับคนทำงานไม่ว่าจะเป็นลูกน้องเขา หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ แม้แต่นักลงทุน สิ่งสำคัญที่ต้องเจอทุกปีคือการเสียภาษีต่างๆ ให้กับรัฐบาล เพื่อพัฒนาประเทศชาติ แต่ถึงเวลายื่นทีไร เอ๋อทุกที ทำอะไรไม่ถูกต้องให้ผู้อื่นจัดการให้ ซึ่งตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าถูกต้องมากน้อยสักแค่ไหน อยากปรับเปลี่ยนอะไรเองก็ลำบาก ดังนั้นหากเรามีความรู้ความเข้าใจด้านภาษีเบื้องต้น ย่อมทำให้เราประหยัดเวลา บางครั้งอาจประหยัดเงินจากการวางแผนภาษีอย่างถูกต้อง
เรื่องบัญชีก็เป็นอีกเรื่องที่เราแทบทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อความมั่งคั่งในอนาคต เหมือนวลีฮิตติดหูที่บอกว่า “จดไม่จน” แคมเปนจ์หนึ่งของรัฐบาลที่เห็นตามสื่ออยู่พักหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราสมควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องบัญชี อย่างน้อยก็รายรับรายจ่าย ว่าแต่ละเดือน ทำไมหนอเราถึงมีเงินไม่พอใช้ เราหมดเงินส่วนใหญ่ไปกับอะไร เพื่อวางแผนอนาคตของตนเอง
การเจรจาต่อรอง
Gettyimages
เป็นไปไม่ได้เลยที่ชีวิตนี้เราจะไม่เจอกับสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งกัน ดังนั้นการเจรจาต่อรองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับชีวิตของเรา เพื่อนำไปสู่ข้อตกลงอย่างสันติ ทำให้เกิดความพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่ขัดแย้งด้วย
การออม การลงทุน
Gettyimages
จริงๆแล้ว การออมก็มีอยู่ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ในความเป็นจริงแล้วการเรียนการสอนด้านการออมนั้นมันไม่ได้มีแค่การเอาเงินไปฝากคุณครูแล้วครูก็เอาไปฝากธนาคารออมสินให้เด็กๆ การปลูกฝังการออมและการลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย สามารถทำให้อนาคตเปลี่ยนได้อย่างมหาศาล แค่การออมเพียงเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นของชีวิต สามารถทำให้สุขสบายได้ยามเกษียณ ด้วยอัตราดอกเบี้ยทบต้นที่ไอน์สไตน์ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก ที่จะทำให้เงินออมเติบโต ออกผลอย่างมากมาย ดั่งคำติดหูที่ว่า “ออมก่อน รวยกว่า”
หลักแห่งความสำเร็จ
Gettyimages
ทุกคนล้วนแต่อยากประสบความสำเร็จ เหตุไฉนเล่า เราถึงไม่เคยได้รับรู้ว่าศาสตร์แห่งความสำเร็จมีอะไรบ้าง ต้องทำตัวอย่างไร ทำชีวิตอย่างไร สิ่งไหน ถึงจะทำให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จดั่งใจหวัง หากเราทุกคนได้รับรู้ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จใช้หลักไหนในการดำเนินชีวิต ทำอย่างไรถึงก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ มันจะไม่ดีกว่าหรือ ไม่จะไม่ช่วยย่นระยะเวลาเราได้หรือ มันจะดีสักแค่ไหน หากเรารู้สูตรแห่งความสำเร็จของผู้คนที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราก้าวไปสู่จุดหมายที่เราไฝ่ฝัน
การตลาดเบื้องต้น
Gettyimages
ใครว่าการตลาดไม่สำคัญ ถึงแม้คุณจะมีไอเดีย/สินค้า/บริการ ดีเลิศสักแค่ไหน แต่หากป่าวประกาศออกไปให้โลกรู้ไม่ได้ โน้มน้าวให้ผู้อื่นคล้อยตามไม่ได้แล้ว สิ่งที่คุณมีมันก็อาจกลับกลายเป็นสิ่งที่ดูไร้ค่า ไร้ความหมายได้ เป็นเหตุให้การตลาดควรที่จะเป็นทักษะหนึ่งที่โรงเรียนควรสอน
การพัฒนาความจำ
Gettyimages
น่าแปลกไหมที่การศึกษาของเราเน้นสอนให้จำสิ่งต่างๆมากมาย แต่ไม่เคยสอนวิธีการจำ การพัฒนาความจำ การบริหารสมอง พอความจำไม่ดีก็ส่งผลให้ทั้งการเรียน และการทำงานในอนาคตย่ำแย่ลง หากในห้องเรียนของเรามีการสอนวิธีพัฒนาความจำที่ถูกต้อง ย่อมนำไปสู่การเรียนการสอนที่ดีขึ้น พัฒนาศักยภาพของทั้งผู้เรียน ผู้สอน และอนาคตของชาติ
กฏหมายเบื้องต้น
Gettyimages
มีคำกล่าวที่ว่า “ผู้ไม่รู้ ย่อมไม่ผิด” คำกล่าวนั้นเป็นจริง แต่ไม่ทั้งหมด เมื่อเรามาเจอกับข้อกฏหมาย ซึ่งเราทุกคนต้องรู้ถึงกฏ ข้อบังคับ ในการอยู่ร่วมสังคมกับผู้อื่น เพื่อรักษาความสงบของบ้านเมือง เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของทั้งตนเองและคนในสังคม ดังนั้น กฏหมายเบื้องต้น จึงนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในการดำรงชีวิต เพราะหากทำผิดแล้วจะมาอ้างว่าไม่รู้ ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
คุณธรรม จริยธรรม
Gettyimages
แม้จะมีการเรียนการสอนด้านนี้อยู่แล้ว แต่ผมเองกลับมีความเห็นว่า มันเป็นเหมือนการเรียนที่ท่องจำ เอาไปสอบ แล้วก็จบกัน ไม่ใช่การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมอย่างแท้จริงและยั่งยืน ดังที่จะเห็นจากปัญหาใหญ่ๆทั้งหลายไม่ว่าจะระดับชาติ หรือแม้แต่ระดับย่อยที่สุดของสังคมหรือก็คือครอบครัว หากพิจารณากันอย่างถ้วนถี่แล้ว ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งก็มาจากคุณธรรม จริยธรรมของคนในสังคมลดน้อยถอยลง การปลูกฝังความรู้สึกผิดชอบชั่วดี การให้ความสำคัญกับความดี ความเสียสละ ความมีน้ำใจ กับเด็กๆน่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง รวมทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคม หันมามุ่งเน้นสิ่งเหล่านี้ น่าจะทำให้สังคมเราน่าอยู่ขึ้นอีกมาก เราจะได้ไม่ต้องมาคอยหวาดระแวงชีวิตและทรัพย์สินจากคนแปลกหน้า ทนเพิกเฉยต่อความอยุติธรรมในสังคมจนกระทั่งบางคนเลิกที่จะเป็นคนดี เพราะคนดีกลายเป็นเหยื่อ ถูกบีบบังคับจากสถานการณ์ต่างๆในสังคมดังเช่นทุกวันนี้
สรุป
ถึงอย่างไรเด็กๆก็ต้องเรียนกันนับสิบๆปี เพื่อที่จะออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่โหดร้าย ที่เรียนว่าชีวิตของคนทำงาน ทำไมเราไม่สอน ไม่เน้นย้ำถึงทักษะสำคัญเหล่านี้ให้กับพวกเขา ทำไมเราต้องมาเรียนรู้ทักษะบางอย่างตอนที่เราได้ทำงาน ตอนที่เราเจอกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยเล่า แต่หากโรงเรียนไม่ได้สอนสิ่งเหล่านี้ เราก็สามารถขวยขวายหาความรู้ได้เอง ไม่ว่าจะจากการอ่าน การฟัง เข้าสัมมนา หรือแม้แต่การเปิดยูทูปดู/ค้นหาจากอินเทอร์เน็ตก็ยังได้
มีทักษะไหนบ้างที่คุณคิดว่าอยากให้นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนกัน หรือมีความคิดเห็นเป็นเช่นไร ก็อย่าลืมคอมเม้นท์กันด้านล่างนะครับ
feature images from: Gettyimages
การคิดบวก
ตอบลบ